ประเภทของการขึ้นรูปสแตนเลส (Cold / Hot Forming)

ในการขึ้นรูปสแตนเลส สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

1. การขึ้นรูปสแตนเลสร้อน (Hot Forming of Stainless Steel)

   - เป็นกระบวนการที่ดำเนินการในช่วงอุณหภูมิสูง เพื่อให้โลหะสแตนเลสอ่อนตัวและสามารถขึ้นรูปได้ง่ายขึ้น

   - เทคนิคที่ใช้ เช่น การหล่อ (Casting), การรีดร้อน (Hot Rolling), การดึงรีดร้อน (Hot Extrusion), การตีพับ (Forging) เป็นต้น

   - เหมาะสำหรับการผลิตชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อน แต่อาจส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติบางประการ เช่น การต้านทานการกัดกร่อน

2. การขึ้นรูปสแตนเลสเย็น (Cold Forming of Stainless Steel)

   - ดำเนินการในอุณหภูมิห้องหรืออุณหภูมิต่ำ โดยใช้แรงกด ดึง ตี หรือขึ้นรูปด้วยแรงกระแทก

   - เทคนิคที่ใช้ เช่น การดึงรีดเย็น (Cold Drawing), การอัดขึ้นรูปเย็น (Cold Extrusion), การรีดเย็น (Cold Rolling), การตัดปั๊มขึ้นรูป (Stamping), การดัดงอ (Bending) เป็นต้น  

   - ช่วยรักษาคุณสมบัติเดิมของสแตนเลส เช่น ความแข็งแรง การต้านทานการกัดกร่อน แต่มีข้อจำกัดในการขึ้นรูปรูปร่างที่ซับซ้อน

การเลือกใช้การขึ้นรูปร้อนหรือเย็นนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น รูปร่าง ขนาด ปริมาณการผลิต งบประมาณ และคุณสมบัติที่ต้องการของผลิตภัณฑ์สแตนเลสนั้นๆ โดยต้องคำนึงถึงข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละเทคนิคด้วย

 

ในการผลิตแผ่นสแตนเลสสีที่เคลือบด้วยกระบวนการ PVD (Physical Vapor Deposition) นั้น จะใช้เทคนิคการรีดเย็น (Cold Rolling) ในขั้นตอนการขึ้นรูปสแตนเลสก่อนการเคลือบสี

การรีดเย็น เป็นกระบวนการที่นำม้วนแผ่นสแตนเลสผ่านลูกกลิ้งที่มีแรงกดสูงในอุณหภูมิห้อง ทำให้สามารถลดความหนาหรือขึ้นรูปแผ่นสแตนเลสได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องใช้ความร้อน ซึ่งจะช่วยรักษาคุณภาพผิวและคุณสมบัติการต้านทานการกัดกร่อนของสแตนเลสไว้ได้ดี

หลังจากการรีดเย็นเพื่อได้แผ่นสแตนเลสที่มีความหนาและขนาดตามต้องการแล้ว จึงจะนำแผ่นสแตนเลสเข้าสู่กระบวนการเคลือบสี PVD ต่อไป โดยการสร้างสภาวะสุญญากาศและปล่อยไอของโลหะสีที่ต้องการเคลือบลงบนผิวแผ่นสแตนเลส ทำให้ได้แผ่นสแตนเลสสีที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมีลวดลายสีสวยงาม

นอกจาก Cold Rolling สำหรับการรีดแผ่นแล้ว Cold Forming ยังมีในเทคนิคการขึ้นรูปสแตนเลสเย็นที่นิยมใช้ ได้แก่

1. การดึงรีด (Drawing) เป็นการดึงลวดหรือท่อสแตนเลสผ่านแม่พิมพ์เพื่อลดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผลิตภัณฑ์

2. การอัดขึ้นรูป (Extrusion) ใช้แรงอัดผ่านแม่พิมพ์เพื่อขึ้นรูปสแตนเลสให้ได้รูปร่างและขนาดตามต้องการ เช่น ท่อ, แผ่นรูปร่างพิเศษ

3. การตัดปั๊มขึ้นรูป (Stamping) ใช้แรงกดอัดจากพันช์และแม่พิมพ์เพื่อตัดสแตนเลสและขึ้นรูปตามแบบ เช่น จานรอง, ถาดสแตนเลส 

4. การรีดเย็น (Cold Rolling) นำสแตนเลสผ่านลูกกลิ้งที่มีแรงกดสูงเพื่อลดความหนาหรือเปลี่ยนรูปร่างสำหรับผลิตแผ่นโลหะบาง

5. การดัดงอ (Bending) ใช้แรงกดหรือดันให้สแตนเลสเปลี่ยนทิศทางหรืองอตามรูปร่างที่ต้องการ เช่น ท่องอ, มุมงอ

การขึ้นรูปสแตนเลสเย็นนอกจากจะช่วยรักษาคุณสมบัติแล้ว ยังมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าการขึ้นรูปร้อน เนื่องจากไม่ต้องใช้พลังงานความร้อน อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดเรื่องรูปทรงที่สามารถผลิตได้ ซึ่งจำเป็นต้องออกแบบและวางแผนกระบวนการอย่างรอบคอบ

มาตรฐานและการควบคุมคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญในการขึ้นรูปสแตนเลสเย็น เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีรูปร่าง ขนาด และคุณสมบัติตามที่กำหนด รวมถึงต้องคำนึงถึงการออกแบบแม่พิมพ์ อุปกรณ์ และการบำรุงรักษาเครื่องจักร เพื่อให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

บทความโดย BLISS metal 

ติดต่อสอบถาม หรือ สั่งซื้อสินค้าได้ที่

Tel: 081-6180778, 0816154296, 0827828654, 02-7537753

LINE@: @blissmetal